ฉากคัทตอนที่76 (หวงไท่จื่อเฟยฯ)
เรื่อง หวงไท่จื่อเฟย ตำแหน่งนั้นข้าไม่ต้องการ
“...ถ้าข้าบอกว่าไม่ แล้วต่อไปจะเป็นยังไง”
“ข้าก็ไม่รู้ ...แต่ถ้าปล่อยใจไปเราอาจได้คำตอบ”
“ปล่อยใจไป? ...ข้าสามารถทำแบบนั้นได้รึ”
“ได้สิ ...หากเจ้าไม่ยอมก็แค่ผลักไส แต่ถ้าไม่รังเกียจก็แค่ปล่อยตัวและใจไปตามความรู้สึก”
สองมือบางประกบแก้มสากแล้วรั้งใบหน้าของอีกฝ่ายลงมาจูบ ...ขบเม้นเบาๆที่ริมฝีปากเล็กน้อย เมื่อไป๋ห่าวอู๋เผยอปากก็เป็นลู่เสียนเองที่รุกต้อนกอดเกี่ยวลิ้นหนา
มือหนาสอดรองใต้คอเล็ก พรึบ รั้งอีกฝ่ายขึ้นมาคร่อมทับตน ก่อนจะย้ายมือลงไปกอดกระชับเอวบาง พลางลูบไล้บนบั้นท้ายกลมกลึง “...อ๊ะ” เพียงออกแรงบีบเค้นเบาๆเสียงหวานก็หลุดอุทานออกมา
ยิ่งถูกปลุกปั่นจากคนตัวสูง ลู่เสียนยิ่งควบคุมตัวเองไม่ได้ จนเผลอบดกายเบียดอย่างไม่รู้ตัว
...แต่ว่า เราสองคนลืมไปแล้วหรือเปล่าว่าจุดนี้คือที่แจ้งไม่ใช่ที่ลับตา
พรึบ! ไป๋ห่าวอู๋ตวัดตัวพลิกขั้นมาอีกครั้ง แต่แผ่นหลังของลู่เสียนกลับรู้สึกได้ถึงความนุ่นที่แตกต่างจากพื้นหญ้า และเมื่อเปิดเปลือกตาก็สบเข้ากับขื่อเรือน ซ้ำมือที่โอบแผ่นหลังกว้างก็สัมผัสได้ถึงเนื้อหนังไม่ใช่เสื้อผ้า
ความอายผุดขึ้นมาในหัวจนต้องละมือออกแล้วมากอดตัวเองไว้ เพราะยิ่งรู้สึกว่าเนื้อหนังของเราแนบชิดกันมากเท่าไหร่ ใบหน้าของตนยิ่งร้อนผ่าวมากขึ้นทุกที
“ไม่ต้องอาย เพราะข้าเองก็เปลือยเปล่าไม่ต่างจากเจ้า” เสียงกระซิบที่แสนแหบพร่าดังอยู่ข้างหู ก่อนใบหน้าคมสันจะซุกเข้ากับคอระหงอีกครั้ง เพียงกายเนื้อเย็นต้องลมหายใจอุ่นลู่เสียนก็พลันสั่นสะท้าน
“อ๊ะ!” ก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อมีสัมผัสนุ่มหยุ่นเปียกชื้นตวัดลากจากต้นคอไปถึงติ่งหู แต่คนกระทำกลับหัวเราะขบขันจนน่าตี “...อ๊ะ อื้อ~” แรงขบเม้นบนคอทำให้รู้สึกเจ็บจี้ดเล็กๆแต่ขณะเดียวกันก็มีความรู้สึกประหลาดผุดขึ้นมาอีกครั้ง พานให้สองขาเรียวเบียดเสียดสีเข้าหากัน
“...ทำไมข้ารู้สึก อึดอัด”
“แต่มันไม่ได้แย่ใช่ไหม”
“ชะ-ใช่”
“เช่นนั้นคงเป็นความเสียวซ่าน” ผละมือประคองหน้าออกมาลูบไล้ลงผิวกายเนียนละเอียด ปลุกปั่นอารมณ์คนใต้ร่างจนแทบอดกลั้นไม่ไหว และเพียงผละกายออกแล้วยืดตัวขึ้น ตนก็สบเข้ากับความเย้ายวนที่น่าบดขยี้
เรือนกายบาง หน้าท้องแบนราบ เอวคอดปรากฏเส้นโค้งสวย ผิวกายของลู่เสียนไม่ว่าจะแตะหรือจับส่วนไหนก็ช่างลื่นมือ เนียนเรียบไร้ตำหนิไปเสียทุกส่วน และยามที่เจ้าตัวเต็มไปด้วยอารมณ์ใคร่ครอบงำเช่นนี้ ดวงตาคู่สวยก็ช่างฉ่ำวาวสะท้อนประกายงดงามเสียยิ่งกว่าดวงดาว
เมื่อไล่สายตาลงมาก็สบเข้ากับเม็ดทับทิมสีอ่อนชูเด่นล่อตา จึงยื่นมือเข้าไปบีบบี้เบาก็พลันหลุดเสียงหวานออกมาทันที
ลำคอแกร่งแห้งผากขึ้นเรื่อง และทันทีที่สิ้นความอดกลั้นก็พุ่งเข้าจู่โจม อ้าปากครอบครองพลางดูดดึงจนเกิดเสียง
“อ๊ะ” ส่วนคนถูกกระทำจิกทึ้งผ้าปูจนเรียวนิ้วขึ้นข้อขาว ยิ่งอีกฝ่ายลงลิ้นสะกิดรัวเสียงหวานยิ่งหลุดครวญครางออกมาไปไม่ขาดสาย “...พะ พอแล้ว ไม่ไหว”
คำอ้อนวอนไม่เป็นผลเมื่อไป๋ห่าวอู๋ยังคงจดจ่ออยู่กับยอดอกราวกับทารกผู้หิวกระหาย แม้จะถูกผลักไสแค่ไหนริมฝีปากก็ไม่ยอมคายออก จนร่างบางเริ่มเวทนาอกของตนที่มันคงจะเหลวคาปากอย่างแน่นอน
...จุ๊บ เสียงผละริมฝีปากออกทำสองแก้มแดงก่ำ แต่นั่นเพื่อย้ายเป้าหมายไปยังอีกข้างอย่างเท่าเทียม
ขณะที่ริมฝีปากร้ายยังทำงานดีไม่มีตกหล่น มือหนาก็ไล้ลูบสำรวจเรือนกายพลางบีบเค้นจนผิวขาวเต็มไปด้วยรอยมือ ซึ่งที่หนักสุดเห็นจะเป็นส่วนเอวบางที่ใกล้ช้ำ
“อึก” แต่จู่ๆลู่เสียนก็พลันกลั้นหายใจเมื่ออีกฝ่ายผละริมฝีปากออกแล้วเลื่อนหน้าลงต่ำ พรมจูบไปทั่วหน้าท้องลงมาที่ต้นขาอ่อน “...อ๊ะ” กรีดร้องเสียงหลง ปลายเท้าเขย่งสูงจิกงอลงพื้นเตียง “อ่าส์~” ก่อนจะปลดปล่อยออกมารดหน้าท้องของตัวเอง
ไป๋ห่าวอู๋ยันกายยืดตัวขึ้นมองหน้าท้องแบบราบที่เปรอะเปื้อน ทั้งที่ตนแทบจะไม่แตะส่วนนั้นของลู่เสียนเลย แต่เจ้าตัวกลับปลดปล่อยออกมาง่ายๆ นั่นบ่งบอกว่าร่างบางช่างไร้ประสบการณ์และใสซื่อนัก
จับขาเรียวชันขึ้น แล้วสอดมือเข้าจุดอ่อนไหว ไล้ปลายนิ้วแตะวนเบาๆ และเมื่อมั่นใจก็กดสอดนิ้วเข้าไปทันที “...อ๊ะ”
“ผ่อนคลายไว้ลู่เสียน” มือหนึ่งข้างยึดเอวบางไม่ให้ขยับหนี แล้วเริ่มสวนนิ้วเข้าออกเป็นจังหวะสม่ำเสมอ และเพียงไม่นานเมื่อปรับตัวได้ก็เพิ่มนิ้วเข้าไป จนเรียวคิ้วสวยเริ่มขมวดมุ่ยกับความคับแน่นที่มากขึ้นเรื่อยๆ
“มัน ...อึดอัด” คว้ามือหนาที่กำลังกดหน้าท้องของตนไว้ จนกระทั่งสามนิ้วถูกถอดออกแล้วจ่อแทนด้วยแท่งร้อนเข้ากับช่องทางสวย “...อึก!”
ใบหน้าสวยบิดเบี้ยวเมื่อความเจ็บปวดนี้เหมือนถูกฉีกร่างทั้งเป็นอย่างไรอย่างนั้น ฉับพลันความชาวิ่งจากปลายเท้าขึ้นถึงหัว แม้กัดฟันข่มจนหน้าสั่นก็ไม่อาจอดกลั้นไหว “...ไม่ พะ-พอแล้ว”
เพราะลู่เสียนเริ่มออกแรงดิ้นไป๋ห่าวอู๋จึงต้องหยุดมือ ค้างเอาไว้ทั้งที่ดันเข้าไปได้แค่ส่วนหัว
ร่างสูงโน้มลงป้อนจูบดึงสติให้ลู่เสียนกับมาจดจ่อที่ด้านบน ส่วนมือหนาก็พยายามลูบเอวบางปลอบประโลมให้คลายความเกร็ง และทันทีที่รู้สึกได้ว่าลู่เสียนผ่อนคลายลงก็ออกแรงดันเข้าไปอย่างระมัดระวัง “...อึก อื้อ!” จนกระทั่งแท่งหยกของตนถูกกลืนเข้าไปจนหมด
ไป๋ห่าวอู๋ผละริมฝีปากออกแล้วจูบซับน้ำตาที่หลุดออกมาเพราะความเจ็บ แล้วย้ายมาที่ลำคอระหงเล้าโลมจนเสียงคราวหวานหลุดออกมาอีกครั้ง และเลื่อนใบหน้าลงต่ำมาที่ยอดอก จูบซับและสะกิดปลายลิ้นเข้าใส่ จนคนใต้ร่างเคลิ้มตามเผลอแอ่นอกเข้าหา
“คงพร้อมแล้วสินะ”
มุมปากยกยิ้มนิด แล้วถอยสะโพกออกช้าๆจนเกือบหลุด ก่อนสวนกลับเข้าใส่จนมิดด้าม ก้าวแรกมักฝืดเคืองเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อปรับตัวได้แล้วทุกจังหวะก็จะเริ่มลื่นไหลขึ้น จนสุดท้ายเป็นลู่เสียนเองก็ที่อดกลั้นต่อความใจเย็นของอีกฝ่ายไม่ไหว นอนบิดกายบนเตียงด้วยความทรมาน
“ได้โปรด ...อึก ห่าวอู๋” คำเรียกที่แสนห้วน แต่เจ้าของชื่อกลับไม่รู้สึกเคืองเลยสักนิด ซ้ำยังยินดีตอบสนองตามความต้องการขององค์ชายน้อยอีกด้วย
“อ๊ะ อ๊ะ” เสียงหวานครวญครางกระเส่าสั่นถี่ขึ้นเรื่อยๆตามแรงกระแทกกระทั้น พร้อมกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังสะท้อนภายในหอนอน
ลู่เสียนสิ้นสติอย่างสมบูรณ์ สองแขนกอดตัวเองแน่น ยิ่งอีกฝ่ายยันกายโน้มตัวลงแล้วสวนเอวสอบเข้าใส่ยิ่งใกล้วิปลาสเข้าไปทุกที ...มือบางพลางจิกลงเนื้อตัวเอง จนไป๋ห่าวอู๋ต้องเข้ามารั้งออก ก่อนที่มันจะเป็นรอยแดงไปมากกว่านี้ “...ไม่ไหว ฮึก ห่าวอู๋”
เมื่อเห็นร่างบางใกล้ปลดปล่อยอีกครั้งร่างสูงก็เร่งตะบันส่งให้ตามคำขอ “...อึก อ่าส์!” สุดท้ายปลดปล่อยออกมาเป็นครั้งสอง
เอวสอบพลันผ่อนแรงลงเว้นจังหวะให้ร่างบางได้พักหายใจ แต่ก็ยังขยับกายเข้าออกไม่หยุด
พยายามถนอมอีกคน ในขณะที่ตัวเองกดข่มความทรมานจนแทบขาดใจ สันกรามบดขบกันแน่นจนขึ้นสัน เพราะภายในของลู่เสียนกระตุกตอดรัดจนเส้นเลือดของตนขอดเกร็งไปทั้งร่าง จึงโน้มหน้าลงไปป้อนจูบปิดปาก แล้วออกแรงสวนกายเข้าใส่อย่างดุดัน
เสียงหวานครางอื้ออึงในลำคอเมื่อยังไม่ทันได้หายเหนื่อย ก็ถูกความเสียวซ่านเล่นงานอีกครั้ง
เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังถี่ขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งกระตุ้นความรู้สึกของไป๋ห่าวอู๋ให้กระพือขึ้นสูงยากจะฉุดลง ...ร่างสูงผละกายละริมฝีปากออก ยืดหลังตรงมองคนใต้ร่างขยับไหวตามแรงกระทบ จนเส้นผมยาวปลิวสยายไปกับเบาะ
อึก ลอบกลืนน้ำลายเหนียวลงคออย่างยากลำบากเมื่อภาพตรงหน้าทำลายสมาธิของตนมากแค่ไหน “...ขอโทษนะลู่เสียน”
“หะ-หืม?”
ร่างบางไม่เข้าใจกับคำพูดของอีกฝ่าย แต่เมื่อสบเข้านัยน์ตาก็เห็นประกายไฟที่กำลังลุกโชนราวกับจะแผดเผ่าตนให้ตายมันลงตรงนี้
“...อ๊ะ อื้อ! อ๊ะ!” และกว่าจะรู้ตัวว่าอีกฝ่ายขอโทษเรื่องอะไรร่างกายก็แทบแหลกสลายออกเป็นเสี่ยงๆ เมื่อถูกสวนเอวสอบเข้าใส่จนปากอ้าพะงาบกลืนเสียงหายลงลำคอ ความรู้สึกเจ็บ จุก และเสียวซ่านวิ่งเข้าจู่โจมพร้อมกันจนในหัวนั้นว่างเปล่าไม่หลงเหลือความคิดใดอีกแล้ว
“อึก ...อ่าส์~”
จนในที่สุดไป๋ห่าวอู๋ก็กระตุกเกร็ง แล้วปลดปล่อยเข้าสู่ภายใน ...ความรู้สึกอุ่นร้อนนั้นกระจายไปทั่วท้องน้อยจนต้องยกมือขึ้นลูบ ส่วนคนตัวสูงก็ทิ้งกายลงซบอกบางพลางหอบหายใจสั่น ก่อนยันกายขึ้นจูบหน้าผากมนปลอบขวัญอย่างอ่อนโยน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น