ฉากคัท ตอนที่10 (An Old Book)
เรื่อง : An Old Book ไม่อาจลืมรัก
“คนเจ้าเล่ห์”
“แล้วได้หรือเปล่าล่ะ”
ขายาวเดินเข้าหาแล้วโน้มหน้าผากลงแนบชิด
ปัดปลายจมูกโด่งสันเข้ากับจมูกโด่งรั้นของคนในอ้อมแขน
ก่อนแนบริมฝีปากจุมพิตแผ่วเบาลงบนกลีบปากนุ่ม ขบเม้นเล็กหยอกเย้า และเมื่ออชิรัญเผยอปาก
เปิดทางให้ก็เข้ากวาดต้อนภายใน
เสียงจูบหลุดออกมาเป็นระยะพร้อมเสียงครางต่ำในลำคอของคนตัวสูงอย่างพึงพอใจ
มือหนากระชับท้ายทอยเล็กปรับองศาเอียงหน้าให้แนบชิดกันมากขึ้น
ส่วนภายในก็ตวัดเกี่ยวลิ้นเล็กสลับดูดดึงเร่งเร้าตามแรงอารมณ์
ยิ่งเนิ่นนานที่ได้สัมผัส
อุณหภูมิในกายยิ่งเพิ่มสูงขึ้น ฝ่ามือหนาเริ่มออกลายสำรวจลูบไล้ไปตามเนื้อผิวเนียนที่แสนลื่นมือ
ส่วนอีกข้างผละจากท้ายทอยลงมากกอดเอวบาง
“อื้อ!” มือบางตีเข้าไหล่หนาเมื่อรู้สึกได้ถึงอากาศที่น้อยลงทุกที “อ่าส์!” เมื่อปากเป็นอิสระก็รีบร้อนหอบอากาศเข้าปอดจนอกบางกระพือขึ้นสูง
ใบหน้าสวยเชิดขึ้น
สองแก้มแดงระเรื่อช่างน่าเอ็นดู
แต่นั่นก็ไม่ต่างจากการเปิดทางให้อามันต์ประชิดจุดอ่อนไหวแรก
...ใบหน้าคมซุกเข้าลำคอขาว ขบเม้นลงรอยเดิมที่เริ่มจางให้กลับมาช้ำเขียว
จบท้ายด้วยการตวัดลิ้นเลียทับรอย
ขณะที่ริมฝีปากร้ายสาละวนอยู่กับคอขาว
มือหนาออกลายซุกซนไปทั่ว กระตุกเชือกผูกปมของกางเกงขาสั้น เกี่ยวรั้งออกจากเอวบางแล้วถีบไปไว้ที่ปลายเท้า
จากนั้นหันมาจัดการกับกระดุมเสื้อเชิ้ตสีพีชอ่อน เผยให้เนื้อนวลต้องลมเย็น
อามันต์ผละใบหน้าออกจากคอเล็ก
มองดูคนตัวบางในอ้อมแขนที่แทบทรงตัวยืนไม่ไหว ใบหน้าแดงก่ำดวงตาหยาดเยิ้มฉ่ำวาว
...ทุกอย่างที่ประจักษ์ตรงหน้าช่างน่าขย้ำให้แหลกสลายคามือ
มือหนาจับยึดไหล่เล็ก
ออกแรงกดร่างให้ทรุดลงคุกเข่า และอีกคนก็ช่างแสนรู้ที่ยินยอมทำตามความต้องการของคนรักอย่างไม่คิดเกี่ยงงอน
ยื่นมือมาปลดตะขอกางเกงออกจากเอวสอบ แล้วรั้งอันเดอร์แวร์ลงจนส่วนใหญ่โตพร้อมออกศึกผงาดสู่สายตา
ไม่ว่าจะกี่ครั้งที่ต้องตามใจ
อชิรัญก็ไม่เคยชินกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า “...เร็วหน่อยคนดี พี่ไม่ชอบรอนะ รัญก็รู้ดีไม่ใช่เหรอ”
มือหนาลูบหัวเล็กราวกับปลอบประโลม ก่อนแทรกปลายนิ้วเข้ากับเรือนผมนุ่มแล้วออกแรงดันเล็กอย่างเร่งเร้า
คนตัวเล็กสูดหายใจเข้าลึก
ก่อนอ้าปากครอบครองส่วนแข็งขืนเข้าไป ริมฝีปากอิ่มห่อรูดได้เพียงครึ่งลำ แต่ก็สามารถเรียกเสียงครางต่ำออกมาอย่างสุขสม
ส่วนมืออีกข้างคว้าส่วนฐานขยับรูดช่วย
“อือ... รัญ
เร็วขึ้นอีกนิด” ใบหน้าคมสันเชิดขึ้นสูง เสียงทุ้มครางต่ำร้องขอ ส่วนสองมือกระชับหัวเล็กบังคับจังหวะตามความต้องการ
ภายในปากเล็กๆนี่ดีไม่ต่างจากจุดอ่อนไหว
ยิ่งตอนที่ฟันกระต่ายเผลอกระทบเนื้อใจยิ่งสั่นสะท้าน
หน้าท้องหดเกร็งจนขึ้นก้อนกล้ามอย่างไม่รู้ตัว
“อึก!” อชิรัญรู้สึกได้ถึงความเร็วที่เพิ่มขึ้น นั่นไม่ใช่ที่เขาเป็นคนกระทำ
แต่เป็นคนตัวสูงที่ควบคุม
“ห่อปากไว้เด็กดี
อีกนิดเดียว ...อ่าส์~”
อดกลั้นไม่กี่อึดใจร่างกายก็กระตุกเกร็ง
แล้วปลดปล่อยเข้าโพรงปากเล็กอย่างตั้งใจ ...นัยน์ตาคมมองอชิรัญที่ยามนี้หน้าแดงก่ำสำลักไอ
ก่อนคว้าจับปลายคางแล้วแทรกนิ้วเรียวยาวเข้าปาก ตวัดนิ้วเกี่ยวลิ้นเล็กเล่นอย่างนึกสนุก
“รัญ...
หันหลัง” ถึงจะปลดปล่อยนำหน้าไปแล้ว แต่ก็ใช่ว่าความกระหายอยากจะลดลง เพราะอชิรัญไม่ต่างจากสารเสพติด
ที่ยิ่งกลืนกินยิ่งกระหายอยากมากขึ้น ...และกลางแจ้งก็เป็นสิ่งเดียวที่เราไม่เคยทำกัน
แต่ครั้งนี้นับว่าเปิดประสบการณ์ที่ดี?ให้กับเจ้าตัวจำไว้เป็นหนึ่งในบทเรียนแล้ว
ร่างบางถูกจับหันในท่าคลานเข่า
ในใจนึกโทษตัวเองที่พลาดให้กับคนเจ้าเล่ห์ตั้งแต่ก้าวแรกที่ขึ้นเรือมา และก้าวสองที่เลือกมานั่งหัวเรือ
“...พี่ครับ นี่มันด้านนอก”
“แล้วยังไง”
อามันต์ตอบกลับอย่างด้านชา ...ก็ที่นี่มันกลางทะเล ใครจะมาเห็นกัน
และถ้ามาเห็นในช่วงสำคัญ คิดหรือว่าจะหยุดอามันต์ เบรนตันคนนี้ได้
ริมฝีปากร้ายไล่จูบไปทั่วแผ่นหลัง
ทำกายบางบิดเร้าอยู่ไม่เป็นสุข ส่วนมือหนึ่งข้างชักรูดแก่นกายจนกลับมาแข็งขืน
ส่วนอีกข้างรั้งสะโพกกลมกดแผ่นหลังให้โก่งโค้ง
เมื่อได้ท่าที่เหมาะสมก็จ่อเข้ากับช่องทางด้านหลังพร้อมกดกายเข้าใส่จนมิดด้าม
โดยไม่เปิดโอกาสให้อชิรัญได้เตรียมใจก่อน
“อ่าส์!” ปากเล็กอ้ากว้างครางลั่นด้วยความรู้สึกจุก
ความชาระคนเสียวซ่านเข้าจู่โจมกะทันหัน แต่ยังไม่ทันตั้งตัว
ระดับแรกก็เริ่มต้นด้วยจังหวะหนักหน่วงร้อนแรง
กายบางสั่นสะท้านจนหัวสั่นคลอน
เพราะแรงกระแทกกระทั้นที่มาจากคนด้านหลัง รอบกายแว่วเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังสะท้อนในความเงียบ
ขับประสานด้วยเสียงครางหวานที่เต็มไปด้วยความทรมานและสุขสม
อชิรัญกำลังเข้าใกล้ความวิปลาสเพราะพิษรักที่อีกคนกำลังฝังลงในร่าง
ทำมือบางสองข้างจิกทึ่งเบาะหนังจนขึ้นข้อขาวหวังระบายความรู้สึกที่กำลังปะทุยิ่งกว่าเปลวไฟต้องน้ำมัน
ฟุบ
แขนที่จะยันกายสิ้นเรี่ยวแรงจนต้องฟุบหน้าลงเบาะ ก่อนเสียงหวานจะครางถี่เมื่ออีกคนส่งแรงกายสวนเข้าใส่รุนแรง
ยิ่งส่วนสอดลึกต้องจุดอ่อนไหว เสียงหวานใสยิ่งครางลั่นราวกับถูกเชือด
แต่ยิ่งเห็นอชิรัญทรมานเพราะเขามากเท่าไหร่
ยิ่งสร้างความพอใจให้กับอามันต์มากเท่านั้น
“อึก อื้อ
พี่ครับ อ๊ะ ...เบา เบาหน่อย”
“แน่ใจเหรอรัญ
ว่าอยากให้พี่ทำแบบนั้น”
ร่างบางกัดปากจนเจ็บ
เพราะหากส่งเสียงก็ไม่ต่างจากร้องเชียร์ แต่ถ้าอดกลั้นไว้ก็ไม่ต่างจากการเปิดช่องโหว่ให้ถูกกลั้นแกล้ง
“....อ๊าง” แก่นกายเล็กถูกคว้ากุมด้วยมือหนา ชักรูดช่วยเหลือให้อชิรัญได้ปล่อย
“...พี่ครับ” แต่อีกด้านก็เหมือนดาบสองคม เพราะขณะที่ปลายทางใกล้เข้ามาเยือน นิ้วใหญ่กลับกดปลายมนไว้ไม่ให้ปลดปล่อย!
“ต้องพร้อมกันสิ”
ร่างสูงกระตุกยิ้ม
ก่อนเร่งตะบันเอวเข้าใส่ช่องทางด้านหลัง ส่วนมืออีกข้างก็รั้งสะโพกไว้ไม่ให้อีกคนถอยหนี
...ภายในตอดรัดแน่นจนต้องขบกรามจนขึ้นสัน ...ช่างน่าแปลก
ทั้งที่มีอะไรกันจนนับครั้งไม่ได้ แต่ทำไมความรู้สึกที่กอดก่ายถึงไม่ต่างจากวันแรกที่ได้ลิ้มลอง
“อ๊ะ”
อชิรัญพยายามดึงมือหนาออกจากแก่นกายตน แต่เหมือนแรงต้านนี้จะไม่ต่างจากแรงมด
“...พี่ครับ ...ฮึก” หากต้องอดทนจนกว่าอีกฝ่ายจะปลดปล่อย
เขาคงได้ตายลงตรงนี้อย่างแน่นอน
“ใกล้แล้วเด็กดี...
ฮืม อ่าส์~”
ก่อนที่จะอดกลั้นไม่ไหว
แรงกดส่วนหัวก็คล้ายลง อชิรัญกระตุกเล็กน้อยแล้วปลดปล่อยออกมาอย่างที่ใจต้องการ เช่นเดียวกับคนด้านหลังที่ปล่อยเข้าสู่ภายในทุกหยาดหยด
ความรู้สึกอุ่นร้อนกระจายไปทั่วท้องน้อย ชวนให้รู้สึกมวนท้องแปลกๆ
ฟุบ... ทิ้งร่างลงเบาะอย่างคนไร้แรง
ความเหน็ดเหนื่อยวันนี้ช่างหนักหนาไม่ต่างจากครั้งแรกของเรา ส่วนหนึ่งนั้นรู้ดีว่าเพราะเราสองคนห่างหายเรื่องนี้กันนับเดือน
ทั้งจากที่อชิรัญวุ่นอยู่กับงานประกวด ส่วนอามันต์ก็กลับดึกเพราะธุรกิจและงานสังคม
“พี่ครับ
พักก่อนได้ไหม” เสียงหวานแหบพร่าร้องขอ เพราะยังไม่ทันหายเหนื่อยก็ถูกจับพลิกให้นอนหงาย
ก่อนที่คนตัวสูงจะโน้มกายซุกหน้าลงซอกคอหอม แล้วตวัดลิ้นชิมเนื้อสลับดูดดุนสร้างรอยช้ำ
ริมฝีปากไล้จูบลงต่ำ
จรดปากดูดดุนยอดอกสีอ่อนจนแดงก่ำและบวมช้ำ บางครั้งลงฟันขบเม้นจนรู้สึกเจ็บ
แล้วลากปลายลิ้นลงมาหยอกเย้าแอ่งสะดือทำกายบางบิดเร้าอย่างทรมาน
“รัญก็พักไปสิ เดี๋ยวพี่ทำเอง”
อามันต์แทรกกายลงหว่างขาเรียว
กระชับสะโพกยกขึ้นทับหมอนอิงแล้วจัดท่าที่เหมาะสมให้พอดีกับตำแหน่ง
แล้วจ่อแก่นกายเข้ากับช่องทางด้านหลังอีกครั้ง ซึ่งการสอดใส่ครั้งนี้ลื่นไหลง่าย เพราะมีน้ำรักก่อนหน้าช่วยหล่อเลี้ยง
“รัญ...
รู้สึกยังไงตอนพี่เข้าไปแบบนี้” คำถามหยาบโลนหลุดออกจากปาก พานให้ใบหน้าสวยแดงก่ำจนอยากแทรกแผ่นดินหนี
“...ส่วนพี่รู้สึกได้ตั้งแต่แรกเข้าเลยนะ ดูสิ... ขนาดรัญบอกว่าไม่มีแรง
ยังตอดรัดพี่ซะแน่น หรือจริงๆแล้วรัญแค่แกล้งหลบเลี่ยง”
อชิรัญเงียบนิ่งไม่ยอมตอบ
ทั้งยังเบือนหน้าหันหนีไม่ยอมสบสายตาที่แสนแพรวพราวนั่น “...หึๆ”
จนอามันต์หัวเราะออกมาอย่างนึกเอ็นดู แต่ยิ่งแสดงออกว่าเป็นกระต่ายขี้อายมากเท่าไหร่
ยิ่งได้ใจข่มรังแก
กายแกร่งเริ่มต้นขยับเข้าออกอีกครั้ง
เอวสอบสวนแก่นกายเข้าลึกสุดแล้วถอยออกจนเกือบหลุดในจังหวะเชื่องช้าแต่สม่ำเสมอ
จนเอวบางถอยตามการชักนำอย่างเผลอไผล
“อือ”
เสียงหวานครางหลุดเป็นระยะ พลางหลับตาพริมเชิดปลายคางสูง ส่วนกายบางก็บิดเร้าตามแรงอารมณ์
“...รัญ
ดาวกำลังสวย รัญชอบไม่ใช่เหรอ มองมันสิเด็กดี”
ทันทีที่เปลือกตาบางเปิดขึ้นมองตามคำบอกเล่า
อามันต์ก็เปลี่ยนจังหวะล่อลวงให้เร็วขึ้นเรื่อยๆ “...ชอบไหม
ที่พี่พาออกมาข้างนอกแบบนี้”
“อ๊ะ เบา
เบาหน่อย” มือบางดันเข้าที่หน้าท้องของคนคร่อมหวังลดแรงกระแทก แต่มันก็ช่างไร้ผลลัพธ์
เพราะยิ่งต่อต้านอามันต์ยิ่งกระทำตรงข้าม หมับ!
รวบข้อมือเล็กยึดไว้ แล้วเร่งตะบันเอวเข้าใส่ไม่สนเสียงอ้อนวอน
“พี่ถามแล้วไม่ยอมตอบ
...อยากถูกลงโทษใช่ไหม”
“อื้อ มะ-ไม่ใช่
อ๊ะ พี่อามันต์~” อชิรัญส่ายหน้าปฏิเสธจนผมปลิว
“...รัญ ชอ-”
“งั้นเตรียมตัวรับบทลงโทษของพี่ได้เลย”
มุมปากกระตุกยิ้มร้าย ทำอชิรัญขนลุกเกรียวไปทั้งร่าง เพราะรู้ดีว่าอามันต์มีร้อยแปดวิธีที่จะทรมานอชิรัญให้รู้สึกเหมือนตายทั้งเป็น!
พรึบ
ร่างบางถูกอุ้มขึ้นทั้งที่สวนเชื่อมยังสอดอยู่ภายใน และทุกจังหวะก้าวพานให้รู้สึกจุกจนต้องจิกเล็บลงเนื้อไหล่หนาหวังระบายความรู้สึก
ตุบ ก่อนจะถูกปล่อยลงกลางอากาศหล่นลงบนเตียงกว้าง “รัญ... ของขวัญจากพี่
...เปิดดูสิ”
อชิรัญรู้สึกหวาดระแวงสายตาของอีกฝ่าย
หนึ่งด้านคือความกระหายที่มองออกทันที ส่วนอีกด้านเหมือนเขาเป็นเพียงเหยื่อใต้กรงเล็บมังกร
ก่อนจะละสายตามองไปยังกล่องของขวัญสีขาวนวลผูกโบว์สีแดงสด ที่ถูกวางไว้กลางเตียงอย่างลังเล
สายตากดดันจากคนตัวสูงทำให้อชิรัญยันกายด้วยแขนที่สั่นเทาลุกขึ้นนั่ง
แล้วคว้ากล่องนั้นมาเปิดออก
...?!
“ชอบของขวัญของพี่ไหม”
“พะ-พี่ครับ”
“วันนี้เรามีเวลาอีกมาก
ค่อยๆเรียนรู้มันไปนะครับ พี่เองก็จะให้ความร่วมมือชี้แนะรัญอย่างใจเย็นเหมือนกัน”
อชิรัญเข้าใจคำว่าด้านมืดในวิญญาณมนุษย์อย่างถ่องแท้ก็วันนี้! อามันต์ เบรนตันคนนี้เตรียมทุกอย่างเอาไว้อย่างดีมาตั้งแต่ต้น
และยังสามารถตะล่อมกล่อมให้เคลิ้มตามอย่างไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจอีกด้วย!
“รัญไว้ใจพี่หรือเปล่า”
มือหนายื่นเข้ามาลูบเรือนผมนุ่มปลอบขวัญ แล้วโน้มลงจูบซับที่ขมับบางอย่างถนอม และเพราะสัมผัสอ่อนโยนนี้ทำให้อชิรัญเผลอไผลพยักหน้าตอบอย่างไม่รู้ตัว
“..ครับ”
“แล้วรักพี่หรือเปล่า”
“พี่ก็น่าจะรู้คำตอบดี
ไม่อยากนั่นรัญคงไม่ตามใจจนพี่กลายเป็นคนเอาแต่ใจขนาดนี้” คำพูดของอชิรัญทำอามันต์ก้มลงจูบซับมุมปากอย่างมันเขี้ยว
“หึๆ พี่ก็รักรัญครับ
...เด็กดีของพี่”
อามันต์หยิบหางกระต่ายสีขาวปุกปุยออกมาจากกล่องแล้วกดสอดเข้าช่องทางด้านหลัง
จากนั้นก็กดรีโมทเปิดทำงาน “...อ่าส์~”
เสียงหวานครางสั่น กายบางสะท้านตามแรง
ร่างสูงเอนกายพิงหลังอิงลงหัวเตียง
ทอดมองคนตัวเล็กบิดเร้าอยู่ตรงหน้า อชิรัญมีผิวที่ขาวใส แต่เมื่อมีอารมณ์ใคร่ยิ่งตัวแดงก่ำไม่ต่างจากกุ้งต้ม
“...อ๊ะ อื้อ ...พี่ครับ” เสียงหวานร้องหาคนที่แสนเลือดเย็น แล้วฝืนยันกายคลานเข้าหาคนใจร้ายอย่างทรมาน
“ชอบไหม”
อชิรัญส่ายหน้าทันที “...ไม่ชอบเหรอ” แล้วพยักหน้าแทนอ้าปากตอบ
ร่างบางพยายามส่งสายตาอ้อนวอนให้อีกฝ่ายละเว้น
“...ถ้าอยากให้พี่ช่วย ต้องพิสูจน์ให้พี่เห็น ว่ารัญเป็นเด็กดีมากแค่ไหน ทำได้ไหม”
เจ้ากระต่ายแสนซื่อพยักหน้ารับทันที ก่อนยื่นมือสั่นคว้าแก่นกายใหญ่ ขยับชัดรูด2-3ครั้ง แล้วอ้าปากครอบครอง
“อึก”
“อือ... เด็กดี
จะทำให้พี่หลงไปถึงไหน”
สองเสียงขับประสานครวญครางสุขสม
เรื่องคืนนี้เป็นไปตามการวางแผนของอามันต์ทุกอย่าง ไม่สิ!
แบบนี้มันเกินสิ่งที่คาดการณ์เอาไว้เสียอีก
วัตถุประสงค์ของมาทะเลครั้งนี้คืออยากใช้เวลาฉันคนรักทั่วไป
กิน เที่ยว และมีช่วงเวลาทำกิจกรรมต่างๆ สร้างความทรงจำที่สวยงาม
ตัวอชิรัญมีความสุข ส่วนอามันต์ก็ได้พักผ่อน
...แต่ทุกการลงทุน
ย่อมต้องคาดหวังผลตอบแทนเสมอ ไม่เช่นนั้นจะเป็นนักธุรกิจที่ดีได้ยังไง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น