ฉากคัท ตอนที่51 (An Old Book)
เรื่อง An Old Book ไม่อาจลืมรัก
ส่วนอามันต์ก็ยกยิ้มนิดอย่างพึงพอใจ
มือหนาเริ่มออกลายลูบไล้สำรวจทั่วเรือนกายผ่านผ้าซาตินที่แสนลื่นมือ ก่อนซุกเข้าใต้เสื้อลูบเคล้นเอวบาง
“...อึก อื้อ” จนเสียงหวานหลุดครางอื้ออึงในลำคอ และเมื่อสบโอกาสก็รุกโต้ตวัดเกี่ยวลิ้นเล็กตามแรงอารมณ์ที่กำลังทยานขึ้นสูง
อาการมึนเมาที่มีก่อนหน้าเริ่มกระจายไปทุกอนูของร่างกาย
ปลุกความกระหายอยากในตัวที่นอนนิ่งมานานนับ6ปีให้ตื่นขึ้น พานเปลี่ยนจูบที่หวานซึ้งเป็นรุนแรงและเร้าร้อน
เหงื่อของอามันต์เริ่มซึมประปรายตากรอบหน้าเพราะความตื่นเต้น
ส่วนอชิราเริ่มรู้สึกได้ถึงความร้อนระอุจากภายในที่กำลังประทุขึ้นเรื่อยๆ
พร้อมกับความโหยหาเจือปนด้วยความคิดถึงผุดออกมาไม่ต่างจากคนตัวสูง
“อึก”
ก่อนจะขาดใจเพราะจูบ อามันต์ก็ผละริมฝีปากออกมาแล้วมาซุกไซ้ที่ลำคอระหง
ขบเม้นทั่วตารางผิว ทิ้งรอยแสดงความเป็นเจ้าของเอาไว้มากมาย และยิ่งจุดไหนมีกลิ่นหอมละมุนลอยอบอวนอยู่มาก
ยิ่งบอบช้ำหนักหนาน่าเวทนานัก ส่วนคนใต้ร่างนอนหอบหายใจถี่ จนมือบางคว้าจิกไหล่หนาหาที่ยึด
เนิ่นนานกว่าจะผละใบหน้าออกจากซอกคอระหง
นัยน์ตาคมมองผลงานที่ประปรายตามคอขาว ก่อนจะไล้สายตาลงมาที่แผ่นอกบางผ่านรอยแยกของเสื้อ
เพราะเมื่อร่างกายเสียดสีกระดุมเม็ดเล็กก็หลุดออกจากรังโดยไม่ต้องแตะ
เผยให้เห็นความเนียนละเอียดน่าสัมผัส
พรึบ
ร่างสูงยันกายลุกขึ้นนั่ง
แล้วคว้าอชิราที่ร่างกายอ่อนเปลี้ยเพลียแรงขึ้นมานั่งคร่อมทับตัก
จุ๊บ
จูบแผ่วเบาลงกลีบปากช้ำที่บวมเจ๋อขึ้นมาเล็กน้อย “...ขอนะครับ”
ซุกเข้าคอขาวแล้วจูบออดอ้อน ก่อนเรียวแขนเล็กจะคว้ากอดคอหนาแทนคำตอบ
อามันต์เผยรอยยิ้มออกมาแล้วจัดการปลดกระดุมเสื้อออกจากรังจนหมด
แล้วซุกเอากับแผ่นอกบางพรมจูบทั่ว แรกเริ่มจู่โจมเม็ดทับทิมที่ชูเด่นล่อตา
ริมฝีปากร้ายอ้างับเข้าไปเต็มคำแล้วดูดดึงราวกับลูกพยัคฆ์ผู้หิวโหย ทำอชิราบิดกายพลางกดข่มความเสียวซ่านที่กำลังปะทุขึ้นเรื่อยๆ
ยิ่งมือหนาเริ่มบีบเค้นสะโพกอย่างมันมือ สติยิ่งหลุดมากขึ้นเท่านั้น
“ยกก้น”
กางเกงนอนขาสั้นถูกอีกฝ่ายรั้งออกจากเอวไปพร้อมกับอันเดอร์แวร์ตัวเล็กจิ๋ว
จนทั้งเนื้อตัวของอชิราเปลือยเปล่าโดยสมบูรณ์ ต่างจากอีกคนที่ยังมีเสื้อผ้าติดกายครบทุกชิ้น
“โอ๊ะ”
และในจังหวะที่ยังไม่ทันตั้งตัว เรียวนิ้วยาวก็แทรกผ่านร่องก้นเข้ามาบรรจบที่ช่องทางด้านหลัง
ก่อนจะกดปลายนิ้วเข้าไปเพื่อสร้างความคุ้นชิน ...หนึ่งนิ้วเบิกทาง ชวนใจกระตุก
ก่อนนิ้วที่สองและสามจะเข้ามาทำให้เรียวคิ้วบางขมวดมุ่ยเพราะความอึดอัด
“...พี่ครับ มัน...”
“ใจเย็นคนดี”
อามันต์พรมจูบกล่อมคนตัวเล็ก
ก่อนจะย้ายมืออีกข้างที่ประคองเอวบางมาคว้าแก่นกายเล็ก
“มะ- พี่ครับ”
“ชู่วส์”
อชิราสิ้นสติโดยสมบูรณ์กายบางบิดเร้าตามความเสียวซ่านที่ข่มไม่ลงและอดกลั้นไม่ได้
จนสองแขนที่กำลังเกี่ยวกอดคอหนาเริ่มไร้แรงตกลงเรื่อยๆ ...จนกระทั่ง “...อึก
ไม่ไหว พี่ครับ” เสียงลมหายใจเริ่มหอบสั่นมากขึ้น “อึก อ่าส์!” ก่อนจะปลดปล่อยออกมาเต็มมือหนา
ร่างบางทิ้งกายลงเตียงอย่างเหนื่อยอ่อน
อกบางกระพือสูงหอบสั่นน่าเวทนา ก่อนมือหนาจะยื่นเข้าไปเกลี่ยแก้มขาวขึ้นสีแดงระเรื่อ
ไล้สายตาลงมาที่ลำคอระหงมองรอยจูบที่เริ่มเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ
ตามด้วยอกบางและยอดอกสีช้ำ มือหนาไล้ลูบลงมาจนถึงบั่นเอวตามส่วนเว้าโค้งที่ชวนใจสั่น
เมื่อสมควรแก่เวลา
มือหนารั้งกางเกงและอันเดอร์แวร์ออกจากสะโพกสอบ คว้าแก่นกายแข็งขืนที่พร้อมออกศึกมาซักรูดสองสามครั้งแล้วพุ่งจู่โจมเข้ากับช่องทางด้านหลัง
“อึก”
เพียงเริ่มขยับ เรียวคิ้วของอชิรัญก็ขมวดมุ่ยขึ้นเรื่อง
ความคับแน่นทำให้ริมฝีปากสีอิ่มเม้มเข้าหากันจนขึ้นขาว
มือบางจิกทึ่งพื้นเตียงข่มความเจ็บที่มาจากความฝืดเคือง “...อื้อ เจ็บ”
“เพราะเราไม่ได้มีอะไรกันนานเกินไปไง”
อามันต์พูดหน้าตายออกมา พร้อมกับสันกรามที่บดเข้าหากันแน่
ตอนนี้ไม่ใช่เพียงภรรยาที่ต้องแบกรับความเจ็บ
เพราะตัวเขาเองก็ทรมานเพราะแรงกระตุกตอดรัดไม่ต่างกัน “...อือ~”
เมื่อสอดเข้าใส่จนมิดด้ามร่างสูงก็ครางต่ำออกมาทันที
จับสายตาสังเกตคนใต้ร่างเมื่อลมหายใจเริ่มกลับมาคงที่ก็พลันถอยเอวสอบออกจนเกือบหลุดแล้วดันเข้าใส่จนมิดด้าม
จังหวะเชื่องช้าใจเย็นแต่อามันต์นั้นกลับบดขบสันกรามจนขึ้นสัน
เส้นเลือดขอดเกร็งไปทั่วร่างเมื่อภายในใกล้ทำให้เขาขาดความยับยั้งชั่งใจลงไปทุกที
หมับ...
อชิราที่รู้ว่าอีกฝ่ายพยายามถนอมตนแค่ไหนก็ยันกายขึ้นมาสวมกอด แล้วซบหน้าลงกับไหล่กว้าง
และจูบเบาๆลงบนคอ ทำลายสิ้นความอดของอามันต์ลงไปในทันที “...พี่พยายามแล้วนะอชิ”
“ชิไม่ได้ขอให้พี่พยายามซะหน่อย”
“พูดแบบนี้
รู้ตัวหรือเปล่าว่าอะไรจะเกิดขึ้น”
“อะไรล่ะ”อชิราผละหน้าออกมาสบตาด้วยความใสซื่อ
แต่แท้จริงแล้วนั่นคือการเสแสร้งแกล้งทำมึน ซึ่งอามันต์ก็รู้และเข้าใจในท่าทีนี้ดี
จึงอดไม่ได้ที่จะกระตุกยิ้มมุมปากออกมา
พรึบ
ร่างสูงขยับกายตวัดตัวขึ้นนั่งอิงหัวเตียง สองมือหนาประคองสะโพกกลม แล้วออกคำสั่งบังคับให้คนบนตักออกแรงแทน
จุ๊บ
โน้มจูบลงบนหน้าผากแล้วโย้กายขึ้นและกดตัวลงช้าๆ เมื่อเริ่มคุ้นเคยจังหวะสม่ำเสมอก็ตามมา
“อือ” จนได้ยินเสียงครางต่ำหลุดออกมาไม่ขาดสาย
อามันต์เปิดเปลือกตามองส่วนเชื่อมของเราสองด้วยแววตาหยาบโลนแล้วไล้สายตาขึ้นมามองหน้าคนควบตักที่กำลังหลับตาพริมแต่คิ้วขมวด
จึงย้ายมือหนึ่งข้างมากดหน้าท้องแบนราบ ส่วนอีกข้างบังคับให้เพิ่มความเร็ว
“...มีความสุขอยู่คนเดียวแบบนี้ใช้ได้ที่ไหน”
“หืม?”
“เร็วขึ้นอีกสิ
อยากให้พี่พอใจหรือเปล่าล่ะ”
แววตาเจ้าเล่ห์เหมือนเมื่อวันวานเผยออกมาให้เห็นอีกครั้ง
ซึ่งอชิราจะทำอะไรได้นอกจากตามใจเขาอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง?
...เสียงครวญครางของสองคนพร้อมกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อขับประสานดังก้องภายในห้องนอน
และทั้งที่แอร์ในห้องก็ยังเย็นฉ่ำ แต่ตามเนื้อผิวของเรากลับผุดเหงื่อเม็ดเล็กซึมผุดประปราย
ราวกับความเย็นนั้นไม่อาจดับไฟร้อนในกายของสองคนได้
และยิ่งอชิราใกล้เข้าสู่การปลดปล่อยอีกครั้งมากเท่าไหร่
เสียงครางหวานยิ่งหลุดออกมามากขึ้นเท่านั้น
“อึก”
“จะไม่ไหวแล้วงั้นเหรอ”
พรึบ อามันต์พลิกกายดันคนตัวบางลงบนเตียงแล้วเป็นฝ่ายขึ้นคร่อมแทน
จากนั้นก็เดินเกมสานต่อตามใจ เร่งสวนเอวกระแทกกระทั้นเข้าใส่จนเตียงสะเทือนไหว ทำคนใต้ร่างเผยใบหน้าเหยเกบิดเร้า
ส่วนผมยาวสยายปลิวเต็มหมอน
“ไม่!
พี่ครับ!” อชิราร้องเสียงหลงเมื่อตัวเองกำลังจะปลดปล่อยแต่อามันต์กลับคว้ากลางกายและกดปลายนิ้วไว้
“รอพี่ก่อนสิ”
..คำว่ารอของอามันต์เหมือนมีดกรีดลงร่างอชิราซ้ำๆ
เพราะรอบของเราสองคนนั่นช่างต่างกันจนเขาใกล้จะขาดใจเต็มที
และคงเพราะไม่ได้ปลดปล่อยมานานหลายปีอีกฝ่ายจึงกลายเป็นคนปล่อยยากไปเสียแล้ว!
“ไม่ไหวแล้ว
ชิไม่ไหวแล้ว”
“อีกนิดเดียวคนดี”
อามันต์เร่งสวนการกระแทกกระทั้นเข้าใส่ “อึก อ่าส์~”
จนสุดท้ายปลดปล่อยออกมา ความอุ่นร้อนกระจายไปทั้งท้องน้อยพาใจไหววูบขนลุกชันไปทั้งร่าง
“อื้อ~” ส่วนคนที่ทรมานเพราะอดกลั้นมานานก็ได้ปลดปล่อยสมใจอยาก
แต่เพราะความขุ่นมัวก่อนหน้าทำให้อชิราตวัดสายตาดุไปให้คนตัวสูง
...ฟุบ
...อามันต์ทิ้งกายซบลงอกบาง แล้วเริ่มพรมจูบอีกครั้ง “อ๊ะ”
ส่วนอชิรารับรู้ได้ว่าส่วนที่ยังค้างอยู่ด้านในกลับมาตื่นขึ้นทั้งที่ยังไม่ทันหายเหนื่อย
แขนแข็งแรงยันกายลุกขึ้น
แล้วค่อยๆถอดแก่นกายออกจากช่องทางสีช้ำ
ดวงตาคมมองหยาดน้ำรักที่กำลังไหลหลุดออกมาด้วย
“แรกพี่คิดว่าเราจะมีช่วงเวลาส่วนตัวบนเรือสักครั้งก่อนกลับ
อยากน้อยควรเป็นวันแรกที่เราจะได้รำลึกความหลังกันก่อน
แต่น่าเสียดายที่เด็กๆไม่ยอมห่างเราเลย และถ้าจู่ๆเราออกไปเที่ยวสนุกเพียงลำพังคงถูกงอนอย่างแน่นอน”
อามันต์ขยับกายลงมานอนซ้อนหลังแล้วจัดท่าให้อชิรานอนตะแคงข้างพร้อมจัดสะโพกให้เข้าตำแหน่ง
“...แต่ไม่เป็นไร แม้ที่นี่ใช่บนเรือ พี่ก็สามารถรำลึกความหลังให้เราได้”
สิ้นคำดันแก่นกายแข็งขืนเข้าใส่อีกครั้ง
ในรอบที่สองนี้ทุกอย่างช่างลื่นไหล
เพราะน้ำรักก่อนหน้าล่อเลี้ยงให้ทุกการขยับกายไร้ที่ติ
มือหนาคว้าเอวเล็กกดไว้แล้วเร่งตะบันเอวสวนเข้าใส่ตามแรงอารมณ์
ที่เมื่อผสมกับแอลกอฮอล์แล้วก็เหมือนจะรุนแรงขึ้น การปลดปล่อยในรอบที่สองไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแต่ก็รั้งหลังคนตัวเล็กอยู่พอสมควร
และเมื่อปลายทางรอบที่สองมาเยือนอามันต์ก็ดันเรียวขาเล็กไปด้านหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็เร่งกระแทกเอวเข้าใส่
เสียงเนื้อหน้าขากระทบแก้มก้นถี่รัวแค่ไหน
นั่นหมายความว่าเขาใกล้ปลดปล่อยเข้าไปทุกที
“อึก อ่าส์”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น